Apple Vision Pro จะมาถึงประเทศและภูมิภาคใหม่ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน


คอมพิวเตอร์เชิงมิติพื้นที่นวัตกรรมสุดล้ำ
แอป เกม และประสบการณ์ที่มีให้เลือกมากมาย
แอปธุรกิจและแอปเพื่อการทำงานชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Box, Craft, Fantastical, MindNode, Slack, Things 3, Webex, Zoom และแอปต่างๆ จาก Microsoft 365 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับเพื่อนร่วมงานและจัดการงานในชีวิตประจำวันได้สำเร็จ ผู้ใช้ยังสามารถอัดฉีดประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นด้วยแอปยูทิลิตี้ เช่น AirLauncher, GlanceBar, Splitscreen, Screens 5 และ Widgetsmith ตลอดจนการจับคู่กับอุปกรณ์เสริม Bluetooth เช่น Magic Keyboard และ Magic Trackpad สำหรับ Magic Mouse นั้นจะมาพร้อมกับ visionOS 2 ภายในปีนี้
บริการสตรีมมิ่งชั้นนำที่หลากหลายพร้อมให้บริการบน Apple Vision Pro ซึ่งรวมถึง Apple TV+, Amazon Prime Video, Disney+ with Hulu, Max, MUBI, Peacock, Paramount+ with Showtime, Pluto TV และ Tubi2 ส่วนแอป Apple TV นั้นก็มาพร้อม Apple Original ทั้งหมดจาก Apple TV+ รวมถึงภาพยนตร์ 3D อีกกว่า 250 เรื่อง โดยที่สมาชิก Apple TV+ สามารถรับชมบางเรื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม3 ผู้ใช้ Vision Pro สามารถสนุกไปกับบริการสตรีมมิ่งและวิดีโอออนไลน์เพิ่มเติมผ่านแอปต่างๆ เช่น IMAX, Juno, Supercut และ Television หรือจะรับชมผ่าน Safari ก็ได้เช่นกัน โดยแอปที่รองรับ SharePlay และ Persona เชิงมิติพื้นที่ จะทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนต์ไปพร้อมกันราวกับกำลังอยู่ในสถานที่เดียวกัน4
ผู้ใช้ Apple Vision Pro สามารถรับชมการแข่งขันกีฬาและติดตามนักกีฬาคนโปรดได้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนผ่านแอปจากลีกและค่ายกีฬาดัง ไม่ว่าจะเป็น NBA, MLS, MLB, NHL, PGA TOUR, The Masters, UFC, World Surf League และ Red Bull TV นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอย่างการดูแบบหลายมุมมอง การแสดงข้อมูลนักกีฬาและสถิติการแข่งขันได้ในแบบเรียลไทม์ การแม็ปวัตถุจริง และอีกมากมาย ที่ช่วยผสานข้อดีของกระดานคะแนนจริงหรือหน้าจอที่สองรวมไว้ในมุมมองที่เห็น ทำให้แฟนกีฬาสามารถติดตามการถ่ายทอดสดกีฬาระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ ได้จากแอปของผู้ให้บริการเคเบิลทีวีและผู้แพร่ภาพการแข่งขันกีฬาชั้นนำ
ผู้ใช้สามารถสนุกไปกับเกมต่างๆ นับพัน รวมทั้งกว่า 250 เกมใน Apple Arcade โดยบรรดาเกมเชิงมิติพื้นที่และคอนเทนต์ที่อัปเดตใหม่จะเปิดตัวบน Apple Arcade อย่างต่อเนื่อง เกมที่ออกใหม่ก็เช่น Alto’s Odyssey - The Lost City, Crossy Road Castle และ Where Cards Fall และยังมีเกมเชิงมิติพื้นที่ให้เลือกเล่นผ่าน App Store ด้วย เช่น Blackbox ซึ่งเป็นเกมที่ชนะรางวัล Apple Design Award ปี 2024, Loóna และ DapTap ทางด้านเกมยอดนิยมที่ให้ความรู้สึกสมจริง เช่น Job Simulator นั้น ก็โดดเด่นบน Apple Vision Pro เพราะผู้เล่นสามารถใช้เพียงแค่ดวงตาและมือเพื่อจำลองอาชีพต่างๆ ได้ เช่น เชฟทำอาหารหรือเสมียนในร้านค้า ผู้เล่นยังสามารถเข้าถึงเกม iPad และ iPhone ตลอดจนเกม PC และเกมคอนโซลโดยใช้แอปต่างๆ อย่าง Steam Link รวมถึงเกมอีกมากมายบน Mac ซึ่งทั้งหมดสามารถควบคุมได้ด้วย PlayStation DualSense และ Xbox Wireless Controller
แอปเพื่อการออกแบบใหม่ๆ อย่าง AirDraw และ Da Vinci Eye ได้รับการพัฒนาให้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะตัวของการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ เช่น ความสามารถในการใช้ดวงตาและมือเพื่อสเก็ตช์ วาด และระบายสี เช่นเดียวกับแอป djay ที่ชนะรางวัล Apple Design Award ปี 2024 ที่ทำให้ศิลปินสามารถรังสรรค์ดนตรีได้ในอากาศอย่างไม่น่าเชื่อ หรือแอป Lowe’s Style Studio ที่ให้ผู้ใช้ออกแบบห้องครัวในฝันได้เอง
Apple Vision Pro มาพร้อม Apple Immersive Video ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ใช้วิดีโอระดับ 8K แบบ 3D ภายใต้มุมมองภาพแบบ 180 องศา และระบบเสียงตามตำแหน่ง เพื่อนำพาผู้ชมไปอยู่ ณ จุดศูนย์กลางเรื่องราว โดยในแอป Apple TV จะมีภาพยนตร์และซีรีส์ Apple Immersive ให้เลือกรับชมเพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนใน App Store นั้นก็มีประสบการณ์อินเทอร์แอ็คทีฟที่เต็มอิ่มสมจริงไม่เหมือนใคร เช่น Encounter Dinosaurs, ภาพยนตร์ของ GUCCI เรื่อง Who Is Sabato De Sarno? A Gucci Story และที่เพิ่งฉายล่าสุดอย่าง What If…? An Immersive Story จาก Marvel Studios และ ILM Immersive
การออกแบบฮาร์ดแวร์และนวัตกรรมที่ยากจะหาใครเทียบ
ค่านิยมของ Apple รวมไว้อยู่ใน Apple Vision Pro
- คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่ทรงพลังผสานรวมอยู่ใน visionOS ทั้งหมดได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาใหม่เพื่อการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ VoiceOver, ซูม, ฟิลเตอร์สี, การควบคุมสวิตช์, การใช้งานเครื่องตามที่กำหนด และอีกมากมาย โดยผู้ใช้สามารถเลือกวิธีส่งข้อมูลเข้าในแบบที่ต้องการด้วยการควบคุมตัวชี้และการควบคุมการอยู่นิ่ง และสั่งให้มีการติดตามดวงตาได้ด้วยดวงตาข้างที่ถนัดเพียงข้างเดียว ภายหลังในปีนี้ visionOS จะรองรับ Live Caption ทั้งระบบ รวมถึงเครื่องช่วยฟังและเครื่องประมวลผลประสาทหูเทียมที่ถูกออกแบบเพื่อ iPhone
- แอปการศึกษาจะมาพร้อมรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ แอปใหม่อย่าง Art Universe, Beautiful Things, Complete HeartX, JigSpace, LookUp Dictionary, Museas, Pocket Rocket และ Sky Guide ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้มุมมองใหม่ๆ ด้านศิลปะ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อวกาศ และอีกมากมาย ภายใต้ฉากและวัตถุเชิงปริมาตรในมิติที่เต็มอิ่มสมจริง
- Apple Vision Pro มาพร้อมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม โดย Optic ID จะวิเคราะห์ม่านตาของผู้ใช้เพื่อใช้ปลดล็อค Apple Vision Pro, ป้อนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ และทำการชำระเงินด้วย Apple Pay ขณะที่ทิศทางดวงตาของผู้ใช้ที่มองไปมาระหว่างการไปยังส่วนต่างๆ ของ Vision Pro จะได้รับการเก็บรักษาเป็นส่วนตัว ข้อมูลการติดตามดวงตาจะไม่ถูกแชร์กับ Apple หรือแอปหรือเว็บไซต์ของบริษัทอื่น
Apple Vision Pro กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- Apple Vision Pro จะพร้อมจำหน่ายในสาขา Apple Store ทุกแห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รวมถึง Apple Store ทางออนไลน์ ในราคาเริ่มต้นที่ $3,499 โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 256GB, 512GB และ 1TB
- ลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ จะสามารถสั่งซื้อ Apple Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน เวลา 18:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนเป็นต้นไป
- ส่วนลูกค้าในออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร จะสามารถสั่งซื้อ Apple Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน เวลา 5:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมเป็นต้นไป
- Apple Vision Pro มาพร้อม visionOS 1.2 และรองรับภาษาในประเทศและภูมิภาคเหล่านี้ สำหรับ visionOS 2 นั้นจะพร้อมให้ผู้ใช้ Vision Pro ทุกคนใช้งานได้ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีภายในปีนี้
- ลูกค้าสามารถซื้อ Apple Vision Pro ผ่านทาง Apple Store ทางออนไลน์, แอป Apple Store หรือสาขา Apple Store ที่พร้อมให้บริการช่วยเหลือแบบเฉพาะบุคคลโดย Apple Specialist ลูกค้ายังสามารถจองการสาธิต Vision Pro ทางออนไลน์ระยะ 30 นาทีได้ด้วย โดยจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสาธิตให้ทราบหลังจากที่เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า
- เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ Apple Vision Pro ลูกค้าจะต้องสแกนใบหน้าให้สำเร็จโดยใช้ iPhone หรือ iPad ที่มี Face ID พร้อมด้วยแอป Apple Store เวอร์ชั่นล่าสุด การสแกนใบหน้าดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงขนาดของตัวกันแสงและแถบคาดศีรษะที่พอดีกับการสวมใส่
- Apple Vision Pro มาพร้อมแถบคาด Solo Knit, แถบคาด Dual Loop, ตัวกันแสงขนาดเฉพาะบุคคลพร้อมโฟมรองตัวกันแสง 2 ชิ้น, ตัวครอบ Apple Vision Pro, ผ้าเช็ดทำความสะอาด, แบตเตอรี่, สายชาร์จ USB-C และอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C
- สำหรับผู้ใช้ที่จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาสายตา ทาง Apple ได้ร่วมมือกับ ZEISS ในการพัฒนาชิ้นเลนส์เสริม ZEISS Optical Inserts ซึ่งจะประกบกับ Apple Vision Pro ด้วยแม่เหล็ก ทำให้ผู้ใช้ได้รับความคมชัดจากจอภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพZEISS Optical Inserts — ชิ้นเลนส์จะพร้อมจำหน่ายในราคา $99 และ ZEISS Optical Inserts — สามารถสั่งใบตรวจค่าสายตาได้ในราคา $149
- เคสเดินทางสำหรับ Apple Vision Pro จะจำหน่ายในราคา $199
- AppleCare+ สำหรับ Apple Vision Pro จะจำหน่ายในราคา $499
- โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Apple Vision Pro ที่ apple.com/apple-vision-pro
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้
- ความพร้อมใช้งานของแอปแตกต่างกันในแต่ละประเทศหรือภูมิภาค
- Apple TV+ พร้อมให้บริการแก่สมาชิก Canal+ ทุกคนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ต้องใช้แผนบริการ Max Ultimate Ad-Free สำหรับการรับชมระดับ 4K และการรองรับระบบเสียงตามตำแหน่งที่มาพร้อม Dolby Atmos ต้องมีการสมัครสมาชิก Disney+ คอนเทนต์ของ Hulu พร้อมให้บริการแก่สมาชิก Disney Bundle ที่เข้าเกณฑ์
- ความพร้อมใช้งานของภาพยนตร์ 3D แตกต่างกันในแต่ละประเทศหรือภูมิภาค
- Persona พร้อมใช้งานแล้วในรุ่นเบต้า
- พร้อมใช้งานในภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา)
- ต้องมีใบตรวจวัดค่าสายตาอย่างเป็นทางการ และไม่ได้รองรับค่าสายตาทั้งหมด อุปกรณ์เสริมเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาจำหน่ายแยกต่างหาก ZEISS Optical Inserts ชนิดเลนส์ตามค่าสายตามีให้ซื้อได้เฉพาะทางออนไลน์