iOS 15 มาพร้อมวิธีใหม่ๆ ในการต่อติดกับทุกเรื่องและทุกคน พร้อมด้วยคุณสมบัติอันทรงพลังที่จะช่วยผู้ใช้โฟกัส สำรวจ และทำอะไรได้อีกมากมายด้วยระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์
การโทร FaceTime ที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น พร้อมด้วย SharePlay สำหรับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน
เครื่องมือช่วยโฟกัส
ประสบการณ์ใหม่สำหรับการแจ้งเตือน
ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์คือขุมพลังสำหรับ Live Text, การค้นหาด้วย Spotlight อันล้ำสมัย และอีกมากมาย
โฉมใหม่ของประสบการณ์การท่องเว็บด้วย Safari
สำรวจโลกด้วยแอปแผนที่ของ Apple
Apple Wallet พร้อมรองรับกุญแจใหม่ๆ และบัตรประจำตัวของรัฐ


คุณสมบัติใหม่ๆ ด้านความเป็นส่วนตัว
แอปสภาพอากาศและโน้ตโฉมใหม่
อีกหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจ
- Siri เพิ่ม Announce Notifications บน AirPods ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์สิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้เพียงแค่บอก Siri และยังทำอะไรๆ ได้อีกมากมาย
- Shared with You ทำงานทั่วทั้งระบบเพื่อหาบทความ เพลง รายการทีวี รูปภาพ และอื่นๆ ที่แชร์ไว้ในการสนทนาของแอปข้อความ และนำมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นในแอปอย่างรูปภาพ, Safari, Apple News, เพลง, พ็อดคาสท์ และ Apple TV อย่างสะดวกสบาย ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สอดคล้องกับบริบทได้ง่ายและรวดเร็ว
- iCloud+ มีครบทุกอย่างที่ผู้ใช้ชื่นชอบเกี่ยวกับ iCloud เสริมด้วยคุณสมบัติระดับพรีเมียมใหม่ๆ เช่น Hide My Email, การรองรับ HomeKit Secure Video ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น และบริการใหม่สุดล้ำเพื่อความเป็นส่วนตัวทางอินเทอร์เน็ตในชื่อ iCloud Private Relay โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม9 สมาชิก iCloud ปัจจุบันจะได้รับการอัปเกรดเป็น iCloud+ โดยอัตโนมัติภายในปีนี้ และผู้ใช้สามารถแชร์แผนบริการ iCloud+ ทุกแบบกับสมาชิกกลุ่มการแชร์กันในครอบครัวได้ เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติใหม่ๆ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และประสบการณ์การใช้งานอันเหนือชั้นที่มาพร้อมกับบริการนี้
- แอปสุขภาพมีแถบการแชร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลสุขภาพกับครอบครัว ผู้ดูแล หรือทีมผู้ดูแล พร้อมด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มที่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับค่าสุขภาพส่วนตัวต่างๆ อย่างมีความหมายและมุ่งเน้นพัฒนาในด้านนั้นได้ และยังมี Walking Steadiness ซึ่งเป็นค่าการวัดใหม่ที่จะส่งเสริมให้ผู้คนหันมาตั้งใจจัดการกับความเสี่ยงในการล้มอย่างจริงจัง
- วันนี้ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม HomeKit สามารถใส่คุณสมบัติ "หวัดดี Siri" ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อให้ลูกค้าสามารถพูดคุยโต้ตอบกับ Siri บนอุปกรณ์ของบริษัทอื่นได้ โดยอุปกรณ์เสริมที่รองรับ "หวัดดี Siri" จะส่งต่อคำขอผ่านทาง HomePod หรือ HomePod mini และจะรองรับคุณสมบัติต่างๆ เช่น Personal Requests, Intercom, นาฬิกานับถอยหลัง และนาฬิกาปลุก และผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมสามารถทำงานร่วมกับ Apple เพื่อผนวกรวม Siri เข้ากับอุปกรณ์เสริมของตนได้ทันทีตั้งแต่วันนี้
- "ค้นหาของฉัน" มาพร้อมความสามารถใหม่ๆ ที่จะช่วยระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ที่ถูกปิดเครื่องหรือล้างข้อมูล รวมถึงการสตรีมตำแหน่งที่ตั้งแบบสดๆ สำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ ที่เลือกจะแชร์ตำแหน่งของตัวเอง นอกจากนี้ยังมี Separation Alerts ที่จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบหากลืม AirTag, อุปกรณ์ Apple หรืออุปกรณ์เสริมที่ใช้เครือข่ายค้นหาของฉันทิ้งไว้ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และวันนี้เครือข่ายค้นหาของฉันยังรองรับ AirPods Pro และ AirPods Max อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีวิดเจ็ต "ค้นหาของฉัน" ที่ให้ผู้ใช้เหลือบดูตำแหน่งได้โดยตรงจากหน้าจอโฮม
- แอปแปลภาษาเพิ่มคุณสมบัติ Live Translate ใหม่ที่จะทำให้การสนทนาต่างภาษามีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยการแปลภาษาสำหรับทั้งระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลข้อความที่ไหนก็ได้บน iPhone
- การตั้งค่า iPhone เครื่องใหม่ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มใช้งาน iPhone ได้ราบรื่นไม่มีสะดุดยิ่งกว่าที่เคย โดยที่ผู้ใช้ iPhone อยู่แล้วสามารถสำรองข้อมูลจากเครื่องเดิมไว้ใน iCloud ชั่วคราว ถึงแม้จะไม่ได้สมัครสมาชิกไว้ แล้วถ่ายโอนข้อมูลมายังเครื่องใหม่ได้ง่ายๆ และสำหรับผู้ที่เปลี่ยนมาใช้เป็น iPhone เป็นครั้งแรก ก็มีการปรับปรุงประสบการณ์ "ย้ายไปยัง iOS" ให้สามารถถ่ายโอนอัลบั้มรูป ไฟล์ โฟลเดอร์ และการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงมาได้ง่ายๆ เพื่อให้รู้สึกว่า iPhone นั้นเป็นเครื่องของตัวเองตั้งแต่เริ่มใช้
- การช่วยการเข้าถึงทั่วทั้ง iPhone ขยายขีดความสามารถด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับ VoiceOver ที่ให้ผู้ใช้เรียนรู้รายละเอียดได้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผู้คน ข้อความ ข้อมูลในตาราง และวัตถุอื่นๆ ในภาพ และเพื่อรองรับความหลากหลายทางระบบประสาท ก็มีการเพิ่มเสียงพื้นหลังใหม่ที่ช่วยลดการรบกวน และสำหรับผู้ที่หูหนวกหรือหูตึง Made for iPhone ก็จะรองรับเครื่องช่วยฟังแบบสองทิศทางใหม่ด้วย นอกจากนี้ยังมี Sound Actions สำหรับปรับแต่งการควบคุมสวิตช์ให้ทำงานกับเสียงของปากได้ และวันนี้ผู้ใช้ก็สามารถปรับแต่งการแสดงผลและขนาดข้อความในแต่ละแอปให้ต่างกันได้แล้ว Apple ยังเพิ่มการรองรับการตรวจสมรรถภาพการได้ยินจากแผนภูมิแสดงผลทดสอบการได้ยินที่อิมพอร์ตเข้ามาให้กับคุณสมบัติ "การช่วยปรับหูฟัง" หรือ Headphone Accommodations อีกด้วย
ความพร้อมใช้งาน
ภาพของ iOS 15
- มีให้ใช้งานบน iPhone และ iPad ที่มีชิป A12 Bionic และใหม่กว่า และ Mac รุ่นต่างๆ (2018 หรือใหม่กว่า) 2. มีให้ใช้งานบน iPhone และ iPad ที่มีชิป A12 Bionic และใหม่กว่า และคอมพิวเตอร์ Mac ที่มีชิป M1 3. ผู้ที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ Apple สามารถเข้าร่วมได้โดยใช้ Chrome หรือ Edge เวอร์ชั่นล่าสุด และต้องรองรับการเข้ารหัสวิดีโอแบบ H.264 จึงจะสามารถส่งวิดีโอได้ 4. การรองรับ CarPlay จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ 5. กุญแจรถดิจิทัลต้องใช้กับผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการและจะเริ่มใช้งานได้ภายในปีนี้ 6. การรองรับกุญแจประเภทใหม่ๆ ใน Apple Wallet ต้องใช้กับ iPhone ที่ใช้ iOS 15 และมีล็อคประตูที่ใช้ร่วมกันได้สำหรับบ้าน สำนักงาน และโรงแรม ซึ่งจะมีจำหน่ายโดยบริษัทอื่น 7. มีให้ใช้งานบน iPhone และ iPad ที่มีชิป A12 Bionic และใหม่กว่า และจำเป็นต้องดาวน์โหลดรูปแบบเสียงพูด 8. รายงานความเป็นส่วนตัวของแอปจะมาพร้อมกับการอัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับ iOS 15, iPadOS 15 และ watchOS 8 ในภายหลัง 9. แผน iCloud+: 50GB พร้อมกล้อง HomeKit Secure Video 1 ตัว (xx บาทต่อเดือน), 200GB พร้อมกล้อง HomeKit Secure Video ไม่เกิน 5 ตัว (xx บาทต่อเดือน) และ 2TB พร้อมกล้อง HomeKit Secure Video แบบไม่จำกัดจำนวน (xx บาทต่อเดือน)