ในปีที่ผ่านมา Bloomberg ได้ติดต่อเราหลายครั้งเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อระบบความปลอดภัยของ Apple ซึ่งในบางครั้งเป็นคำกล่าวอ้างที่คลุมเคลือ และบางครั้งเป็นคำกล่าวอ้างที่มีรายละเอียดซับซ้อน โดยทุกครั้งที่ได้รับการติดต่อสอบถาม เราได้สืบสวนเรื่องดังกล่าวเป็นการภายในอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ไม่เคยพบหลักฐานใดๆ ที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างเหล่านี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษรหลายต่อหลายครั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อปฏิเสธเรื่องราวที่ Bloomberg รายงานเกี่ยวกับ Apple แทบทุกประเด็น
เราขอชี้แจงเรื่องนี้อย่างชัดเจนเลยว่า Apple ไม่เคยพบชิพที่เป็นอันตราย, "การดัดแปลงแก้ไขฮาร์ดแวร์" หรือช่องโหว่ใดๆ ที่จงใจฝังไว้ในเซิร์ฟเวอร์เลย และ Apple ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก FBI หรือหน่วยงานอื่นใดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ทั้งเราเองและเจ้าหน้าที่ของเราซึ่งเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับทางหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้รับแจ้งว่ามีการสืบสวนใดๆ จากทาง FBI
เราขอนำเสนอข้อเท็จจริงต่อไปนี้เพื่อตอบโต้บทความฉบับล่าสุดของ Bloomberg กล่าวคือ Siri และ Topsy ไม่เคยใช้เซิร์ฟเวอร์ร่วมกัน และไม่เคยมีการนำ Siri ไปติดตั้งเพื่อให้บริการบนเซิร์ฟเวอร์ที่ Super Micro จำหน่ายให้เรา นอกจากนี้จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่มีข้อมูลของ Topsy นั้นมีอยู่เพียง 2,000 เครื่องเท่านั้น ไม่ใช่ 7,000 เครื่อง และไม่เคยมีการตรวจพบชิพที่เป็นอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นเลย
ในทางปฏิบัติ เซิร์ฟเวอร์ที่นำมาติดตั้งใช้งานที่ Apple จะต้องผ่านการตรวจสอบหาช่องโหว่ในระบบความปลอดภัยก่อนทุกครั้ง และเรายังอัพเดทเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดเป็นรุ่นล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังไม่เคยมีการตรวจพบช่องโหว่น่าสงสัยใดๆ ในเซิร์ฟเวอร์ที่เราสั่งซื้อจาก Super Micro ในขณะที่มีการอัพเดทเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์ตามหลักปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานของเรา
เรารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้สื่อข่าวของ Bloomberg ที่ติดต่อพูดคุยกับเรานั้นไม่เปิดใจรับฟังว่ามีโอกาสที่แหล่งข่าวของตนอาจเข้าใจผิดหรือได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจากการคาดเดาของเรา มีความเป็นไปได้ที่ Bloomberg อาจเกิดความสับสนระหว่างเรื่องนี้กับเหตุการณ์ที่เคยรายงานไปเมื่อปี 2559 โดยในครั้งนั้นเราพบไดรเวอร์ที่ติดไวรัสบนเซิร์ฟเวอร์ Super Micro หนึ่งเครื่องในห้องแล็บของเรา และจากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ไม่ใช่การตั้งใจโจมตี Apple แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะไม่มีการกล่าวอ้างว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับข้อมูลของลูกค้า แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับข้อกล่าวหาเหล่านี้ และเราอยากให้ผู้ใช้ทราบว่าเราทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้เชื่อใจให้ไว้กับเรา ยิ่งกว่านั้น เราอยากให้ผู้ใช้ทราบว่าข้อมูลที่ Bloomberg รายงานเกี่ยวกับ Apple นั้นไม่เป็นความจริง
Apple เชื่อมาโดยตลอดว่าวิธีการจัดการและปกป้องข้อมูลจะต้องมีความโปร่งใส และหากเกิดเหตุการณ์อย่างที่ Bloomberg News กล่าวอ้างจริง เราคงออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ วิศวกรของ Apple ยังตรวจสอบคัดกรองระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่เป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าระบบของเรามีความปลอดภัย เพราะเราทราบดีว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องของการแข่งขันที่ไม่มีวันสิ้นสุด และนั่นคือเหตุผลที่เราเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบของเราอยู่ตลอดเวลาเพื่อปกป้องระบบจากแฮ็คเกอร์และอาชญากรในโลกไซเบอร์ที่จ้องจะขโมยข้อมูลเราด้วยวิธีที่แยบยลมากขึ้นเรื่อยๆ