App Store ครบรอบ 10 ปี

นับตั้งแต่ Apple เปิดตัว App Store เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2008 พร้อมกับแอพจำนวน 500 แอพ App Store ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ทั้งในเชิงวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคมที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งการทำงาน การเล่นสนุก การพบปะ การเดินทางและอีกมากมาย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี App Store เป็นแหล่งรวบรวมแอพที่ดีที่สุดและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังเป็นตลาดแอพที่คึกคักสำหรับนักพัฒนาแอพทั้งรายย่อยและรายใหญ่จากทั่วโลก ปัจจุบันนี้ ลูกค้าใน 155 ประเทศเข้ามาเยี่ยมชม App Store บ่อยขึ้น ใช้เวลานานขึ้น อีกทั้งยังดาวน์โหลดและใช้แอพกันมากกว่าที่เคย  

แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมายนับตั้งแต่แอพได้เข้ามาสู่ iPhone และต่อด้วย iPad แต่ความสำเร็จและคำชื่นชมด้านล่างก็สะท้อนให้เห็นว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา App Store ได้ทำให้การแจกจ่ายซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างเสมอภาคและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนไปอย่างมากมาย ซึ่งนับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง  

Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Apple กล่าวว่า "ในช่วง 10 ปีแรก App Store ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่เราคาดไว้มาก ไม่ว่าจะเป็นแอพล้ำๆ ที่เหล่านักพัฒนาคิดค้นขึ้น ไปจนถึงการที่แอพกลายไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เราภูมิใจมากที่นักพัฒนาทำได้ขนาดนี้และคิดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะต้องน่าทึ่งยิ่งกว่านี้แน่นอน"  

Marco Arment นักพัฒนา Overcast และนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับ iOS มาอย่างยาวนานกล่าวว่า "ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวจนถึงวันนี้ App Store เป็นแพลตฟอร์มที่ง่ายที่สุดที่นักพัฒนาจะแจกจ่ายแอพให้คนจำนวนมากได้ เราไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียเงินไปกับการติดตั้งระบบจัดจำหน่ายและระบบชำระเงิน ดังนั้น ไม่ว่าใครๆ ก็พัฒนาแอพได้และยังช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งที่เรารักได้มากขึ้น นั่นก็คือการสร้างแอพที่ดีที่สุดนั่นเอง ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา App Store ได้พัฒนาจนกลายเป็นระบบนิเวศน์ซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์ หลากหลาย และเข้าถึงง่ายที่สุดในโลก"  

Chad Evans รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Major League Baseball กล่าวว่า "ในวันที่เปิดตัว App Store วันแรก ผู้คนตื่นเต้นและคาดหวังกับซอฟต์แวร์ตัวนี้มาก และเรายังได้เห็น MLB At Bat เป็นหนึ่งใน 500 แอพแรกด้วย แต่ตอนนั้นเราคิดว่าคงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าแอพเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงการชมกีฬาของแฟนๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เรารู้สึกโชคดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตครั้งประวัติศาสตร์ของ App Store ในเวลา 10 ปีนี้ แค่คิดถึงอีก 10 ปีข้างหน้าก็ตื่นเต้นแล้ว เราเชื่อว่าเราจะได้รับโอกาสดีๆ อีกมากมายหากเราร่วมมือกับ Apple ในการพาแฟนๆ เข้าไปใกล้ชิดกับทีมเบสบอลและเกมการแข่งขันที่พวกเขาชื่นชอบ"  

ก่อนปี 2008 อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มีบริษัทใหญ่ๆ สองสามแห่งเป็นผู้ควบคุมอยู่ App Store เปิดประตูสู่โอกาสให้แก่นักพัฒนาทุกราย ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนารายย่อยหรือผู้ที่มีสตูดิโอขนาดใหญ่ ทุกคนสามารถนำเสนอไอเดียอันยอดเยี่ยม สร้างแอพที่มีคุณภาพสูง และส่งมอบผลงานของตนได้อย่างง่ายดายให้แก่ลูกค้าที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก

MLB At Bat, Tap Tap Revenge, Trism, The New York Times, eBay และ Travelocity เป็นตัวแทนของแอพจากหลากหลายหมวดหมู่ที่มีให้ดาวน์โหลดตั้งแต่วันแรก แอพเหล่านี้ทำให้ผู้คนค้นพบวิธีใหม่ๆ ในการเดินทาง เล่นเกม อ่านข่าว และติดตามกีฬาได้ทันทีจากอุปกรณ์ในมือ  

การปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ Apple ให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้น Apple จึงให้แนวทางที่ชัดเจนแก่นักพัฒนาและใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการคัดสรรแอพที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มาไว้ในตลาดแห่งนี้ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการสำรวจและเข้าถึงแอพ  

Keith Shepherd และ Natalia Luckyanova ผู้ก่อตั้ง Imangi Studios และผู้สร้าง Temple Run กล่าวว่า "App Store และ iPhone เปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เกมแรกของเรา Imagi เปิดตัววันแรกพร้อมกับ App Store เลย เวลาผ่านไป 10 ปี เราได้สร้างเกมขึ้นมาอีกกว่า 10 เกม รวมถึง Temple Run ซึ่งมียอดดาวน์โหลดกว่าพันล้านครั้ง สตูดิโอของเราเติบโตขึ้นมากจากที่มีกันแค่ 2 คน ตอนนี้มีทีมงาน 35 คนแล้ว สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มี App Store"

ฮาร์ดแวร์ล้ำสมัยและซอฟต์แวร์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วจาก Apple เมื่อนำมารวมกับไอเดียสุดสร้างสรรค์จากนักพัฒนาผู้ที่มองเห็นว่า iPhone จะเป็นอุปกรณ์ที่ลูกค้าต้องมีไว้ติดตัว ทำให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่ๆ ซึ่งมาเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนใช้ชีวิต ทำงาน และเล่นสนุกไปอย่างถาวร หรือจะเรียกว่าเป็นวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องก็ได้

ธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึง Instagram, Calm, Uber และ Instacart นำคุณสมบัติต่างๆ ของ iPhone ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป, Apple Pay, GPS และบริการการหาตำแหน่งที่ตั้ง ในขณะเดียวกัน ทั้งบริษัทที่มีมานานแล้วและบริษัทที่เริ่มต้นจากเว็บไซต์ เช่น Twitter, Facebook, eBay, Yelp, Airbnb และ Amazon ต่างก็เริ่มสร้างแอพเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง

ด้วยเหตุนี้ แอพจึงกลายเป็นหนึ่งในช่องทางที่สำคัญที่สุดที่ลูกค้าจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจต่างๆ และจัดการกับสิ่งที่ต้องทำ เช่น จองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรม จองโต๊ะสำหรับอาหารเย็น เลือกซื้อของขวัญหรือจ่ายบิล

Shigeru Miyamoto ประธานและสมาชิกอาวุโสของ Nintendo กล่าวว่า "เราดีใจมากที่ App Store ทำให้เราได้ส่งต่อ Super Mario Run เกม Super Mario รูปแบบใหม่ที่เล่นได้ด้วยมือเดียวบน iPhone ให้แก่ลูกค้าหลายร้อยล้านคน App Store ทำให้เราได้แบ่งปันความสนุกจากเกม Nintendo ไปสู่ผู้เล่นใหม่ๆ มากมาย และเราจะไม่หยุดคิดค้นเกมใหม่ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้าของ App Store"

Riccardo Zacconi, CEO ของ King และผู้สร้าง Candy Crush กล่าวว่า "เราเปิดตัว Candy Crush Saga บน App Store เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว และประโยชน์มหาศาลที่เราได้รับก็คือการที่ได้เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ มากมายทั่วโลก เกมของเรามีผู้เล่นทั่วทั้ง 7 ทวีป แม้กระทั้งแอนตาร์กติกา นั่นแสดงให้เห็นว่า App Store ทรงพลังและเข้าถึงผู้คนได้มากมายจริงๆ"  

Daniel Wu ประธานของ Hero Entertainment และผู้สร้าง Red Tides กล่าวว่า "App Store ช่วยให้เรานำ eSport สนุกๆ จากเดสก์ท็อปมาสู่อุปกรณ์พกพา ทำให้แฟนๆ และผู้เล่นเกมมาพบกันได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ช่วยให้พวกเขาเพลิดเพลินกับความมีเสน่ห์ของเกมอย่างเต็มรูปแบบ และเกิดเป็นวิธีการใหม่ๆ ในการพบปะสังสรรค์"

App Store ทำให้การเล่นเกมเป็นกิจกรรมกระแสหลักได้ ก็เพราะว่ามีเทคโนโลยี Multi-Touch ที่ใช้งานง่ายบน iPhone และ iPad บวกกับความสะดวกในการเล่นเกมทุกที่ทุกเวลา ลูกค้าต่างชื่นชอบเกมในยุคแรกๆ อย่าง Super Monkey Ball, PAC-MAN, Angry Birds, Words With Friends, Real Racing และ Temple Run ซึ่งทำให้ iOS เป็นแพลตฟอร์มการเล่นเกมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก  

เกมอื่นๆ อย่าง Heads Up!, Pokémon Go, HQ และ Fortnite ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมไปทั่วโลก ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ทำให้เกมคอนโซลคุณภาพเยี่ยมมาอยู่บนอุปกรณ์พกพาได้ ไม่ว่าจะเป็น Vainglory, The Witness และ Arena of Valor 

Horace Dediu นักวิเคราะห์ของ Asymco กล่าวว่า "App Store เปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนเข้าถึงและใช้งานซอฟต์แวร์และบริการไปเลย ระบบนิเวศน์ของซอฟต์แวร์ต้องทรงพลังมากจริงๆ จึงทำให้เกิดระบบการสมัครสมาชิกและเติบโตมาถึงระดับนี้ได้ App Store สร้างหนทางสู่ความสำเร็จให้ผู้คนมากมาย ในแบบที่ไม่มีใครคาดว่าจะเป็นไปได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้ปลดปล่อยไอเดียออกมาในแง่มุมที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน"  

การเปิดตัวคุณสมบัติการซื้อภายในแอพ (IAP) ในปี 2009 ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพและจ่ายเงินเพื่อปลดล็อคเลเวลและคุณสมบัติอื่นๆ ในภายหลัง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ทดลองแอพใหม่ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ App Store จ่ายเงินให้แก่นักพัฒนาจาก IAP และแอพที่ต้องจ่ายเงินไปแล้ว 1 พันล้านดอลล่าร์ ภายในเดือนมิถุนายน 2010   

ในปี 2011 App Store เริ่มเปิดตัวแอพที่รองรับการบอกรับสมาชิก และภายในปี 2016 ได้เพิ่มคุณสมบัตินี้ไปยังแอพทั้ง 25 หมวดหมู่ ได้แก่ เกม เด็ก รวมทั้งสุขภาพและฟิตเนส แอพบน iOS กว่า 28,000 แอพตอนนี้รองรับการบอกรับสมาชิกแล้ว รวมถึง Netflix, iQiYi, Tinder, LinkedIn, Sing! By Smule, Headspace และ Dropbox ทำให้ผู้ใช้ใหม่หลายล้านคนสามารถสำรวจและสมัครใช้งาน หรือยกเลิกการบอกรับสมาชิกได้ทันที การบอกรับสมาชิกเพิ่มขึ้น 95 เปอร์เซนต์จากปีที่แล้ว และจนถึงเดือนมิถุนายน 2018 นักพัฒนามีรายได้จาก App Store ไปแล้วกว่าแสนล้านดอลล่าร์  

Richard Plepler ประธานและ CEO ของ HBO กล่าวว่า "ตอนที่เราตัดสินใจเปิดตัวแอพ HBO NOW เราไม่ได้คุยกันว่าพาร์ทเนอร์จะต้องเป็น Apple เท่านั้น การประกาศว่าเราจะให้บริการสตรีมมิ่งร่วมกับ Apple และการเปิดตัว HBO NOW บน App Store เป็นหนึ่งในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของ HBO  

App Store เป็นศูนย์กลางการเติบโตของการรับชมวิดีโอบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หน้าจอขนาดใหญ่และความละเอียดของจอภาพ iPhone และ iPad ทำให้ลูกค้าชมวิดีโอระหว่างเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริการสตรีมมิ่งอย่าง HBO NOW, Hulu, Netflix และ Sling TV และรายการคุณภาพมากมายจะทำให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับความบันเทิงที่พวกเขาต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา  

James Cuda ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Savage Interactive, ผู้สร้าง Procreate กล่าวว่า "เราคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราอยากจะขายแอพ Procreate ผ่าน App Store เท่านั้น เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้เราเข้าถึงลูกค้าได้ทุกหนทุกแห่ง การใส่คุณสมบัติใหม่ๆ ก็ง่าย รวมถึงการตอบกลับความคิดเห็น และการทำให้ศิลปินได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด การเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางของ App Store เป็นอะไรที่เปลี่ยนชีวิตของเราจริงๆ เพราะว่าลูกค้าหลายล้านคนได้ค้นพบแอพสำหรับการสร้างสรรค์ศิลปะแบบดิจิตอลเป็นครั้งแรก และก็มีศิลปินจากวงการชั้นนำอีกมากมายที่พบว่าการใช้ Procreate คู่กับ iPad Pro และ Apple Pencil เป็นการผสมผสานที่ทรงพลัง พูดง่ายๆ ก็คือ Procreate จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มี App Store"

Yan Lin, CEO ของ Dr. Panda ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ กล่าวว่า "App Store ช่วยให้ Dr. Panda มีโอกาสแสนวิเศษ เปลี่ยนเราจากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ จากจีนให้กลายเป็นแบรนด์สำหรับเด็กที่บรรดาพ่อแม่และเด็กๆ ทั่วโลกหลงรัก ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา คนทั่วโลกโหลดแอพของเราไปแล้วถึง 50 ล้านครั้ง"

ในปี 2010 iPad ถือกำเนิดขึ้นในฐานะผืนผ้าใบดิจิตอลขนาดใหญ่ให้ลูกค้าของเราได้ใช้เปิดประสบการณ์สร้างสรรค์และเรียนรู้สิ่งใหม่ เพราะพกพาง่ายและใช้งานได้หลากหลาย ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกจึงเลือกใช้ iPad Pro เป็นเครื่องมือช่วยสร้างสรรค์และทำงานได้ในระดับที่ไม่คิดว่าจะทำได้·นอกจากนี้ ผู้ใช้งานทุกระดับยังเลือกใช้ iPad มาเป็นทั้งเครื่องมือช่วยทำงานและเล่นสนุกอีกด้วย วันนี้ ลูกค้าของเราสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับแอพมากถึง 1.3 ล้านแอพที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ เช่น Procreate, Lightroom, Microsoft Office 365 และ Prêt-à-Template ช่วยให้คุณคิดสร้างสรรค์ชิ้นงานได้ทุกที่ ทลายกำแพงห้องทำงานและสตูดิโอ แล้วออกไปหาแรงบันดาลใจที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

แอพเพื่อการศึกษาและอ้างอิงมากมายกว่า 200,000 แอพ เช่น Explain Everything และ The Elements จาก Touch Press ช่วยให้ iPad กลายเป็นเครื่องมือส่งเสริมการเรียนรู้ที่ทั้งสมบูรณ์แบบและดึงดูดใจ ช่วยให้แสดงความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้เต็มที่ และส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกัน นอกจากนั้น แอพเพื่อการศึกษาอย่าง Froggipedia, WWF Free Rivers และ Boulevard AR ก็ได้ประยุกต์เอาเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) มาใช้ได้อย่างทันใจเพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมือนจริงยิ่งกว่าเคย

Tobi Pearce, CEO และผู้ก่อตั้ง Sweat ซึ่งเป็นแอพฟิตเนสและชุมชนสำหรับผู้หญิง และ Kayla Itsines, ผู้ร่วมสร้าง BBG Guide และ Sweat Trainer กล่าวว่า "App Store ช่วยให้ Sweat สามารถเข้าถึงและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกได้ เราเข้ามาช่วยเรื่องสุขภาพและฟิตเนส ช่วยขยายขนาดชุมชน และช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นเรื่องเวลา สถานที่ และวิธีการออกกำลังกาย การเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศของ Apple ทำให้องค์กรของเรามีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องและพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด"

Francoise A. Marvel, MD, ทีม Corrie Health, Johns Hopkins, หัวใจวิทยา: "ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ App Store ได้ช่วยให้เกิดนวัตกรรมเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโดยสร้างแพลตฟอร์มสำหรับแอพทางการแพทย์สุดทันสมัยอย่าง Corrie at Johns Hopkins ทีมวิจัยทางสุขภาพผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเราใช้ App Store เพื่อแจกจ่ายแอพที่สามารถช่วยชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับบรรดาผู้ป่วยของเรา"

Apple Watch และ HealthKit ช่วยให้นักพัฒนาสามารถริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมออกมาเป็นแอพด้านสุขภาพ ฟิตเนส และการดูแลสุขภาพ ที่ชาญฉลาดและโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ส่งผลให้ผู้ใช้แอพมีความแอ็คทีฟและใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ตั้งแต่ Apple Watch เปิดตัวมา แอพเหล่านี้มีจำนวนการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 75 เปอร์เซ็นต์ นำโดยแอพอย่าง Zova, Nike, Lose It!, Dexcom, One Drop, Glow, 10% Happier และ Yoga Glo

แพทย์มากกว่า 500 คนและนักวิจัยทางการแพทย์ได้ใช้เครื่องมือ ResearchKit และ CareKit ของ Apple เพื่อศึกษาวิจัยทางคลินิกที่มีผู้เข้าร่วมโครงการมากถึง 3 ล้านรายที่มีสภาพร่างกายต่างๆ กัน ตั้งแต่มีภาวะออทิซึม เป็นโรคพาร์กินสัน กำลังพักฟื้นที่บ้านหลังเข้ารับการผ่าตัด ไปจนถึงกำลังบำบัดโดยการกายภาพ เครื่องมือที่ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอพสำหรับ iOS และ Apple Watch เพื่อตรวจสอบสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของตนเองได้

Richard Ellenson นักพัฒนาและ CEO ของมูลนิธิ Cerebral Palsy กล่าวว่า "App Store มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในโลกแห่งเทคโนโลยีเพื่อการช่วยเหลือและการช่วยการเข้าถึง สำหรับผู้ที่มีความบกพร่อง บุคลากรที่ทำงานด้านนี้ ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นผู้บกพร่อง หรือใครก็ตามที่ยังไม่แน่ใจเรื่องความสามารถของผู้ที่มีความแตกต่างหรือมีความบกพร่องอย่างชัดเจน App Store ได้ช่วยสร้างให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ ผมได้เห็นแล้วว่า App Store ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องหลายพันคนสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้จริงๆ ผมได้เห็นตัวอย่างจริงจากคนใกล้ตัว ลูกชายของผมอายุ 20 ปี ผู้มีแต่ความสดใสและใจรักอิสระ แต่กลับต้องป่วยเป็นโรคสมองพิการ เวลาจะไปไหนมาไหนลูกผมต้องใช้รถเข็นวีลแชร์ แต่ผมรู้ว่าพลังใจของเขานั้นไปไกลกว่านั้นมาก เขาเปล่งเสียงโดยใช้ iPad ทำการบ้านผ่าน iPad เกาะติดโลกโซเชียลผ่าน iPad ดูหนังฟังเพลงผ่าน iPad และสามารถเปิดการแสดงเดี่ยวได้อย่างน่าชื่นชมก็ด้วยเพราะ iPad ผมนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตของลูกผมจะเป็นยังไงถ้าไม่มีเทคโนโลยีแสนมหัศจรรย์นี้ ผมรู้ว่ามีอีกหลายคนที่เห็นด้วยกับผม พูดได้เลยว่า App Store คือความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในเรื่องการช่วยเหลือการเข้าถึง

David Niemeijer ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ AssistiveWare ผู้สร้างแอพการช่วยการเข้าถึงกล่าวว่า "App Store ช่วยให้ผู้บกพร่องสามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้น และทำให้ AssistiveWare เห็นโอกาสช่วยให้คนในโลกใบนี้ติดต่อสื่อสารกันได้โดยไร้สิ่งกั้นขวาง ถ้าไม่มี App Store แล้วละก็ AssistiveWare ก็คงยังเป็นบริษัทพัฒนาแอพ Mac ที่ทั้งบริษัทมีพนักงานแค่คนเดียว ตอนนี้เรามีแอพหลายแอพใน iOS เพื่อช่วยในการสื่อสารและมีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 200,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาแอพจำพวกนี้เพื่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วย"

ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ลูกค้าหลายล้านคนของเราสามารถใช้ประโยชน์จากแอพต่างๆ อย่าง Lyft, Twitter, Starbucks และ TED ที่รองรับคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงจำนวนมากและมีมาให้ในตัว iOS เช่น VoiceOver นอกจากนั้น แอพอื่นๆ อย่าง Voice Dream Reader และ CP Channel ต่างก็ให้ความช่วยเหลือจำเป็นที่ชุมชนผู้บกพร่องต้องการ ด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่ได้รับการออกแบบมาให้สอดรับกับการทำงานต่างๆ เป็นอย่างดี แอพเหล่านี้จึงสามารถช่วยเหลือผู้ใช้และช่วยให้ผู้บกพร่องเข้าถึงและมีประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้นมาก

Amanda Southworth กรรมการบริหารของ Astra Labs ผู้สร้าง Anxietyhelper และ Verena กล่าวว่า "ดิฉันมั่นใจว่า Apple คือผู้ปฏิวัติความสัมพันธ์ระหว่างนักพัฒนาและผู้ใช้ตัวจริง ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวมาจนถึงวันนี้ App Store ยังคงเป็นนวัตกรรมที่ไม่อาจมีใครมาเทียบได้ ฉันทำงานในส่วนที่ไม่หวังผลกำไร จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสามารถเสนอและแจกจ่ายงานออกไปให้ถึงคนในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย และ App Store ช่วยฉันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างมาก ฉันนึกขอบคุณ App Store อยู่ทุกวันที่ช่วยให้ฉันได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้ ฉันดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอันอบอุ่นที่ชื่อว่า App Store"

Masako Wakamiya นักพัฒนาของ Hinadan ซึ่งมีเนื้อหาอิงตามการเฉลิมฉลองตามขนบญี่ปุ่นอย่างเทศกาลเด็กผู้หญิง กล่าวว่า "พออายุ 82 ดิฉันก็เริ่มคิดสร้างเกมที่ผู้สูงอายุก็เล่นได้ เพื่อนๆ ก็มาช่วยสอนดิฉันเขียนโปรแกรมจนเขียนได้เป็นแอพสำหรับ iPhone มีแต่คนชอบมาถามดิฉันว่า "ทำไมถึงอยากสร้างแอพ" คนแก่ๆ ก็มีแต่คิดถึงเรื่องเก่าๆ แต่ดิฉันว่าคนแก่ควรจะคิดถึงอนาคตถึงจะดี ก้าวข้ามไปสู่สิ่งใหม่ที่จะช่วยให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้น แอพของดิฉันรองรับภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ช่วยให้ฉันรู้จักคนทั่วโลกได้ผ่านแอพนี้ ลองคิดดูสิคะว่าดิฉันจะตื่นเต้นแค่ไหน ทั้งหมดนี้ที่ทำได้ก็เพราะ App Store" 

ทุกๆ ปี Apple จะจัดให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์หลายพันคนจากทั่วโลกมาร่วมพูดคุยกันเรื่องการพัฒนาล่าสุดเกี่ยวกับแอพใน Worldwide Developers Conference (WWDC) ตั้งแต่ปี 2013 Apple ได้แจกทุนให้นักเรียนกว่า 150 คนให้มาเข้าร่วมงาน และในปี 2018 Apple ได้แจกทุนให้นักเรียนผู้มีความสามารถมากถึง 350 คน รวมถึงสมาชิกองค์กร STEM จาก 42 ประเทศ ผู้ได้รับทุนจะได้รับบัตรเข้างานประชุมและที่พักฟรี และยังได้เป็นสมาชิกโปรแกรมนักพัฒนาของ Apple อีก 1 ปีอีกด้วย ผู้ที่เคยได้รับทุนนี้ในปีที่ผ่านๆ มาได้เริ่มก่อตั้ง STEM ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อร่วมสนับสนุนให้เพื่อนๆ เรียนเขียนโค้ดและสร้างแอพมาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เช่น สุขภาพจิต ความปลอดภัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ

Apple เปิดตัวโปรแกรม Everyone Can Code ในปี 2016 เพื่อสนับสนุนการเรียน การเขียน และการสอนเขียนโค้ด และในวันนี้ มีนักเรียนมากถึง 10 ล้านคนทั่วโลกที่สามารถเข้าถึงเพื่อเรียนเขียนโค้ด แก้ปัญหา และสร้างแอพที่ช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตให้ดีขึ้นได้ และในปี 2016 นั่นเอง Apple ยังได้เปิดตัว Swift Playgrounds ซึ่งเป็นนวัตกรรมของแอพ iPad ที่นำแนวคิดการเขียนโค้ดมาสู่ชีวิตจริงผ่านอินเทอร์เฟซแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ ซึ่งเหมาะกับนักเรียนทุกระดับ และผู้เริ่มต้นที่สนใจศึกษาการเขียนโค้ดภาษา Swift ของ Apple

Dan Gray หัวหน้าสตูดิโอ ustwo Games ผู้สร้าง Monument Valley กล่าวว่า "ทีมงานของเราสร้างเกมนี้ขึ้นมาโดยยึด App Store เป็นสำคัญ เพราะช่วยให้เราเข้าถึงผู้เล่นเกมมือสมัครเล่นนับล้านๆ คนทั่วโลกได้ App Store โฉมใหม่ช่วยให้ผู้เล่นได้รู้จักผู้สร้างแอพที่ตนเองเล่นอยู่ทุกวัน การทำให้ผู้ใช้ไ

ในปี 2017 Apple ได้เผยโฉม App Store ที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ผู้ใช้อยากเข้าชมทุกวัน มีแท็บเกมและแท็บแอพแยกกันเพื่อให้หาสิ่งที่ต้องการได้อย่างตรงใจเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ และได้รู้จักผู้สร้างแอพที่ตนเองรู้จักและชื่นชอบ ตอนนี้ App Store มีผู้เข้าชมมากถึง 500 ล้านคนต่อสัปดาห์ที่ใช้เวลาค้นหาแอพมากขึ้นกว่าเดิม และมีผู้อ่านเรื่องราวในแท็บวันนี้มากถึง 1 ล้านคน

John Hanke, CEO ของ Niantic กล่าวว่า "เมื่อตอนที่เราก่อตั้ง Niantic เราหวังที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่จะสร้างให้แรงบันดาลใจให้ผู้คนออกสำรวจชุมชนที่ตัวเองอยู่ ได้ออกกำลังกาย และสนุกสนานไปกับเพื่อนๆ และครอบครัวในโลกจริง นอกจากจะช่วยให้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกเข้าถึง Pokémon GO และ Ingress ได้ง่ายแล้ว App Store ยังช่วยสร้างความโดดเด่นให้ชุมชนผู้เล่นของเราได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ที่เรียบเรียงอย่างดีเพื่อบอกเล่าและให้ความรู้กับผู้เล่นของเรา และยังช่วยให้ทีมนักพัฒนาปล่อยคุณสมบัติใหม่ๆ ออกมาให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย"  

ความจริงเสริมคือเทคโนโลยีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยนำประสบการณ์เสมือนจริงมาสู่โลกจริง และช่วยเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้ทำงานและเล่นสนุก ในปี 2017 Apple ได้เปิดตัว ARKit 1.0 และในวันนั้นเองที่ iOS ได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์ม AR ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผู้ใช้ iPhone และ iPad สามารถใช้งานได้ วันนี้ แอพ AR กว่า 3,000 แอพใน App Store เช่น Kings of Pool, Alice in Wonderland AR Quest และ Houzz ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อสินค้า เรียนรู้ และเล่นเกมได้น่าดึงดูดใจยิ่งกว่าเดิม Apple เปิดตัวการอัพเดท ARKit ครั้งที่ 3 ให้นักพัฒนาได้รับชมที่ WWDC ในเดือนมิถุนายน 2018 ทำให้แอพ AR อย่าง LEGO สามารถแชร์ประสบการณ์เล่นเกมแบบหลายคนหรือทำงานร่วมกันโปรเจ็กต์ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ประสบการณ์ AR แบบบ่งชี้แบบเจาะจงเฉพาะบุคคลยังช่วยให้คุณเริ่มเล่นเกมปริศนาบนโต๊ะแล้วกลับมาเล่นต่อได้เสมอ  

Core ML ช่วยให้แอพฉลาดขึ้นได้เพราะสามารถทำความเข้าใจรูปภาพ วิดีโอ และข้อความต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้จึงได้สัมผัสประสบการณ์ที่สดใหม่และน่าตื่นเต้น Core ML สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การใช้ฟิลเตอร์แบบมีสไตล์ในรูปภาพด้วย BeCasso การเพิ่มเอ็ฟเฟ็กต์สนุกๆ ด้วย Snapchat และช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นสามารถเห็นโลกจริงได้ด้วย ทั้งหมดนี้ทำได้โดยยังรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าไว้ได้