Apple เผยโฉมตัวอย่าง
iOS 11.3

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ iOS 11.3 จะพาทุกคนไปสัมผัสกับวิธีใหม่ๆ สุดตื่นเต้นกับประสบการณ์ความจริงเสมือนหรือ Augmented Reality บน iPhone และ iPad รวมถึง Animoji ใหม่บน iPhone X และความสามารถในการดูข้อมูลเวชระเบียนในแอพ Health

การเปิดตัว ARKit พร้อมกับ iOS 11 เป็นการนำความจริงเสมือนมาอยู่ในมือของผู้ใช้ iPhone และ iPad หลายร้อยล้านคน ทำให้ iOS กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ AR ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Apple ยังคงมุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมสำหรับเทคโนโลยีอันน่าตื่นเต้นนี้โดยการแนะนำ ARKit 1.5 ที่จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์ AR ที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งกว่าเดิมและผสานรวมเข้ากับโลกของเราได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้นักพัฒนามีเครื่องมือสำหรับสร้างสรรค์แอพ AR เจเนอเรชั่นใหม่ด้วย

วันนี้นอกจาก ARKit จะระบุพื้นผิวในแนวนอนอย่างโต๊ะและเก้าอี้ได้แล้ว ยังสามารถระบุและวางวัตถุเสมือนบนพื้นผิวแนวตั้งอย่างผนังและประตูได้ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังสามารถสร้างแผนผังของรูปทรงแปลกๆ อย่างโต๊ะทรงกลมได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย ARKit ใช้เทคนิคการรับรู้ภาพด้วยคอมพิวเตอร์อันล้ำสมัยเพื่อค้นหาและระบุตำแหน่งของภาพ 2 มิติ เช่น ป้าย โปสเตอร์ และอาร์ตเวิร์ก และนำภาพในโลกจริงเหล่านี้มารวมเข้ากับประสบการณ์แบบ AR เช่น การจัดแสดงผลงานแบบอินเทอร์แอ็คทีฟในพิพิธภัณฑ์ หรือการทำให้โปสเตอร์ภาพยนตร์เคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา และในตอนนี้ ภาพของโลกจริงที่มองผ่านกล้องยังมีความละเอียดสูงขึ้นอีก 50% และรองรับการโฟกัสอัตโนมัติที่จะช่วยเพิ่มความคมชัดในทุกมุมมอง

Animoji เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสุดฮิตในหมู่ผู้ใช้ iPhone X เพราะสามารถใช้เสียงและการแสดงออกทางใบหน้าของตนเองเพื่อบันทึกและส่งข้อความ Animoji หรือแม้แต่นำ Animoji มาสร้างเป็นวิดีโอคาราโอเกะได้ และใน iOS 11.3 จะมี Animoji เพิ่มมาใหม่อีก 4 แบบ ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone X สามารถถ่ายทอดสีหน้าท่าทางของตนออกมาเป็นสิงโต หมี มังกร หรือหัวกะโหลกได้ โดยอาศัยชิพ A11 Bionic และกล้อง TrueDepth ใน iPhone X ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อบันทึกการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันกว่า 50 รูปแบบ จากนั้นนำมาวิเคราะห์และสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหว ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความ Animoji แบบใดแบบหนึ่งจาก 16 แบบที่มีให้เลือกได้  

Business Chat คือช่องทางใหม่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับธุรกิจต่างๆ โดยตรงภายในแอพ Messages และจะมีการเปิดให้ใช้งานคุณสมบัตินี้ในรุ่นเบต้าพร้อมกับ iOS 11.3 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้โดยจะรองรับธุรกิจหลายแห่ง ได้แก่ Discover, Hilton, Lowe’s และ Wells Fargo คุณสมบัติ Business Chat จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสามารถนัดหมายเวลา หรือซื้อสินค้าโดยใช้ Apple Pay ได้ง่ายๆ ในแอพ Messages และที่สำคัญ Business Chat จะไม่เปิดเผยข้อมูลสำหรับการติดต่อของผู้ใช้กับธุรกิจนั้นๆ และผู้ใช้สามารถหยุดคุยได้ทุกเมื่อ

iOS 11.3 เพิ่มคุณสมบัติใหม่ในการแสดงสมรรถนะของแบตเตอรี่และแนะนำว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือไม่ โดยคุณสมบัตินี้จะอยู่ใน "การตั้งค่า -> แบตเตอรี่" และมีใน iPhone 6 หรือใหม่กว่า 

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดูได้ด้วยว่ามีการเปิดใช้คุณสมบัติการจัดการพลังงานที่มีมาตั้งแต่ iOS 10.2.1 หรือไม่ โดยคุณสมบัตินี้จะคอยจัดการกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องปิดการทำงานโดยไม่คาดคิด และผู้ใช้สามารถเลือกที่จะปิดคุณสมบัตินี้ได้ โดยคุณสมบัตินี้จะอยู่ใน "การตั้งค่า -> แบตเตอรี่" และมีใน iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone SE, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone 7 และ iPhone 7 Plus 

คุณสมบัตินี้จะเปิดให้ใช้งานใน iOS 11.3 เบต้ารุ่นหลังๆ 

คุณสมบัติ Health Records ใหม่เป็นการนำโรงพยาบาล คลินิก และแอพ Health ที่มีอยู่แล้วมารวมเข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้คนทั่วไปสามารถดูข้อมูลทางการแพทย์ของตนจากผู้ให้บริการหลายรายได้ง่ายๆ ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยผู้ป่วยจากสถาบันทางการแพทย์ที่เข้าร่วมจะสามารถดูข้อมูลจากหลายสถาบันซึ่งแสดงรวมอยู่ในหน้าเดียวอย่างเป็นระเบียบ และจะได้รับการแจ้งเตือนเป็นประจำเกี่ยวกับผลการตรวจจากห้องแล็บ การใช้ยา อาการต่างๆ และอีกมากมาย นอกจากนี้ ข้อมูล Health Records จะได้รับการเข้ารหัสและปกป้องด้วยรหัสผ่านอีกด้วย

• อีกไม่นาน Apple Music จะกลายเป็นศูนย์รวมมิวสิกวิดีโอ โดยที่ผู้ใช้สามารถสตรีมมิวสิกวิดีโอทั้งหมดที่อยากดูได้โดยไม่มีโฆษณาคั่น ยิ่งกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถดูวิดีโอใหม่สุดฮิต วิดีโอคลาสสิก หรือวิดีโอจากศิลปินคนโปรดต่อเนื่องกันแบบไม่มีสะดุดในเพลย์ลิสต์มิวสิกวิดีโอที่เพิ่มมาใหม่ได้ด้วย  
  

• รองรับ Advanced Mobile Location (AML) ที่จะส่งตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้โดยอัตโนมัติในขณะโทรศัพท์ติดต่อบริการฉุกเฉินในหลายประเทศที่รองรับ AML