Final Cut Pro X แนะนำการตัดต่อวีดีโอ VR 360 องศา

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย - 14 ธันวาคม 2560 - วันนี้ Apple® ประกาศการอัพเดทครั้งสำคัญของ Final Cut Pro® X ซึ่งเป็นแอพการตัดต่อวีดีโอสำหรับมืออาชีพ โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ได้แก่ การตัดต่อวีดีโอ VR 360 องศา เครื่องมือปรับสีชั้นสูง และรองรับวีดีโอ High Dynamic Range (HDR) ด้วยการใช้ศักยภาพของ iMac Pro™ รุ่นใหม่หมดอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ใช้งาน Final Cut Pro จะสามารถตัดต่อวีดีโอความละเอียด 8K เต็มรูปแบบได้เป็นครั้งแรกบน Mac® นอกจากนี้ ยังมีการขยายการรองรับวีดีโอ 360 องศาไปยังแอพที่สามารถใช้งานร่วมกับ Final Cut Pro ได้แก่ Motion® และ Compressor ในตลาดงานมากกว่า 2 ล้านตำแหน่งในทุกวันนี้ Final Cut Pro X ถือเป็นเวอร์ชั่นของซอฟท์แวร์ที่ได้รับความนิยมสุงสุด และถูกใช้งานโดยนักตัดต่อวีดีโอมืออาชีพเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะอันน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์และภาพยนตร์โฆษณาระดับรางวัล Hollywood ไปจนถึงรายการทีวีและวีดีโอบน YouTube ที่ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ

“ด้วยฟีเจอร์ใหม่อาทิ การตัดต่อวีดีโอ VR 360 องศา และกราฟฟิกภาพเคลื่อนไหว การปรับสีชั้นสูง และการรองรับ HDR Final Cut Pro ช่วยให้นักตัดต่อวีดีโอมีเครื่องมือในการสร้างสรรค์คอนเท้นท์เจเนอเรชั่นใหม่อันน่าทึ่ง” Susan Prescott รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์แอพของ Apple กล่าว “เมื่อผนวกรวมกับประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ของ Mac รวมไปถึง iMac Pro รุ่นใหม่ทั้งหมด Final Cut Pro ได้ส่งมอบสตูดิโอสำหรับการตัดต่ออันทรงพลังอย่างน่าทึ่งให้แก่นักตัดต่อวีดีโอหลายล้านคนทั่วโลก”

Final Cut Pro ช่วยให้นักตัดต่อมืออาชีพสร้างสรรค์คอนเท้นท์ VR ซึ่งสามารถอิมพอร์ต ตัดต่อ และส่งมอบวีดีโอ 360 องศา และชมผลงานแบบเรียลไทม์ผ่านการเชื่อมต่อกับเฮดเซ็ท HTC VIVE ด้วย Steam VR โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มชื่อเรื่องแบบ 2 หรือ 3 มิติ ให้กับวีดีโอ 360 องศาไม่ว่าจะเป็นแบบเบลอ เรืองแสง และเอฟเฟ็คที่น่าดื่มด่ำอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถใช้ตัวควบคุมภาพเพื่อขยายภาพในแนวนอนหรือลบสายกล้องถ่ายรูปจากวีดีโอพาโนรามาแบบ 360 องศาได้ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มรูปภาพและวีดีโอแบบปกติในงาน VR และสามารถแชร์วีดีโอ 360 องศาไปยังเว็บไซด์ยอดนิยม อาทิ YouTube Facebook และ Vimeo ได้โดยตรง

การอัพเดทยังรวมถึงเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับการปรับสีแบบมืออาชีพ มีฟีเจอร์วงล้อสีที่โดดเด่นด้วยตัวควบคุมที่สามารถปรับสี ความอิ่มของสี และความสว่างได้ในตัว เส้นโค้งสีสามารถปรับสีได้ละเอียดมากโดยสามารถเลือกสีแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละจุดได้หลายจุด และ eye droppers ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดลองสีที่ต้องการ และปรับ white balance ด้วยตัวเอง อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถใช้ตารางค้นหาที่กำหนดเอง (LUTs) จากแอพปรับสียอดนิยม อาทิ DaVinci Resolve และเว็บไซด์ ได้แก่ PremiumBeats Color Grading Central และอื่นๆ

การรองรับไฟล์ HDR ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทำให้ Final Cut Pro สามารถเพิ่มระดับความสว่างเพื่อให้ภาพที่สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ นักตัดต่อสามารถแสดงภาพวีดีโอบนมอนิเตอร์ HRD โดยใช้อุปกรณ์ I/O จาก AJA และ Blackmagic ด้วยระดับความสว่างสูงถึง 10,000 nits อุปกรณ์ปรับสีใหม่รองรับทั้งวีดีโอ HDR และ Standard Dynamic Range (SDR) และด้วยการปรับสีให้เหมาะกับจอแสดงผล ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากการแสดงภาพแบบ HDR เป็น SDR เวลาออกอากาศได้อย่างง่ายดาย

ฟีเจอร์อื่นๆใน Final Cut Pro 10.4

• อิมพอร์ตงาน iMovie® จาก iPhone® และ iPad® มายัง Final Cut Pro เพื่อการตัดต่อ ลงเสียง ลงภาพเคลื่อนไหว และปรับสีขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย
• รองรับ HEVC และ HEIF เพื่อการอิมพอร์ตและตัดต่อวีดีโอประสิทธิภาพสูงและรูปภาพจากอุปกรณ์ของ Apple
• เอฟเฟ็คด้านเสียงปลั๊กอินจาก Logic Pro® X ได้รับการอัพเดทด้วยการออกแบบใหม่ อินเตอร์เฟซที่ลดขนาดได้
• Metal®  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกราฟฟิกขั้นสูงของ Apple ทำงานได้เร็วขึ้น การวิเคราะห์การไหลของแสงมีคุณภาพมากขึ้น

Motion 5.4 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ชื่อเรื่องแบบ VR 360 องศาอันน่าดื่มด่ำด้วยเอฟเฟ็คที่สามารถเข้าใช้งานได้อย่างรวดเร็วใน Final Cut Pro การอัพเดทยังช่วยให้การแปลงไฟล์งาน Motion ทำได้ทันทีอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสรรค์ภาพเคลื่อนไหวที่สมจริงด้วย Overshoot behavior ใหม่และสร้างสรรค์ภาพที่ให้แรงบันดาลใจด้วยฟิลเตอร์ใหม่ๆ ส่วน Compressor 4.4 ช่วยสร้างสรรค์วีดีโอ 360 องศา ในไฟล์แบบมาตรฐานอุตสาหกรรม อีกทั้ง Compressor ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเอ็กซ์พอร์ตวีดีโอ HEVC และ HDR พร้อมเพิ่มออฟชันใหม่ๆในการสร้างไฟล์ MXF