Clips มาพร้อม Selfie Scene (ฉากเซลฟี่) เพื่อการถ่ายเซลฟี่แบบ 360 องศาที่สมจริงบน iPhone X

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย — วันนี้ Apple ประกาศเกี่ยวกับการอัพเดทครั้งสำคัญสำหรับ Clips ซึ่งเป็นแอพฟรีบน iOS ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอสนุกๆ แล้วแชร์โดยใช้ iPhone หรือ iPad เป็นเรื่องง่าย ในครั้งนี้ Clips มาพร้อม Selfie Scenes และเพิ่มเอฟเฟ็กต์งานศิลป์แบบ Style Transfer รวมถึงอินเทอร์เฟซโฉมใหม่ที่จะทำให้การสร้างสรรค์วิดีโอเท่ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าที่เคยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

Selfie Scenes คือคุณสมบัติใหม่อันน่าตื่นเต้นที่จะพาผู้ใช้เข้าไปอยู่ในฉากแอนิเมชั่นแบบ 360 องศาขณะอัดวิดีโอเซลฟี่ โดย Selfie Scenes จะใช้กล้อง TrueDepth อันล้ำสมัยบน iPhone X พาผู้ใช้ท่องไปในเมืองที่วุ่นวาย ธรรมชาติอันแสนสงบ ภาพวาดแอ็บสแตรกต์ หรือแม้แต่ในยาน Millenium Falcon และ Mega-Destroyer จากเรื่อง "Star Wars: The Last Jedi"

"ผู้ใช้ Clips ชื่นชอบที่สามารถสร้างวิดีโออันน่าทึ่งบน iPhone หรือ iPad ได้ง่ายและรวดเร็ว" Susan Prescott รองประธานฝ่าย Apps Product Marketing ของ Apple กล่าว “และ Selfie Scenes ก็จะช่วยเพิ่มความสนุกยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยระบบกล้อง TrueDepth ใหม่สุดล้ำบน iPhone X ผู้ใช้สามารถอัดวิดีโอเซลฟี่พร้อมฉากหลังแบบต่างๆ ที่ทั้งสนุกและแปลกแหวกแนวด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง"

สำหรับ Selfie Scenes นั้น ผู้ใช้สามารถเลือกฉากที่ออกแบบโดย Apple ทั้ง 10 แบบ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่อันโดดเด่นสวยงาม ตัวละคร สีสันและสไตล์ภาพแบบต่างๆ รวมถึงสองฉากจากเรื่อง "Star Wars: The Last Jedi" โดยแต่ละฉากจะมอบประสบการณ์ 360 องศาเต็มรูปแบบที่โอบล้อมผู้ใช้ทุกด้านเมื่อหัน iPhone X ไปรอบๆ อีกทั้งยังมีเอฟเฟ็กต์เสียงแวดล้อมที่ช่วยเพิ่มความสมจริงให้ฉากนั้น

เอฟเฟ็กต์งานศิลป์แบบใหม่ใช้การเรียนรู้จากการใช้งานของตัวเครื่องอันล้ำสมัยควบคู่ไปกับเทคโนโลยี Style Transfer เพื่อเปลี่ยนรูปภาพหรือวิดีโอให้กลายเป็นภาพสีน้ำมันที่เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ ภาพสีน้ำสวยสด หรือภาพสเก็ตช์ดินสออันงดงาม และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ขณะอัดวิดีโอ นอกจากนี้ Clips ยังเพิ่มคอนเทนต์จาก Disney เช่น โปสเตอร์ Mickey Mouse และ Minnie Mouse แบบเต็มหน้าจอ หรือสติกเกอร์ Star Wars ที่มี Princess Leia, Luke Skywalker, Darth Vader, Chewbacca และอื่นๆ มาโลดแล่นในแบบแอนิเมชั่น ยิ่งกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเองในวิดีโอ Clips ได้มากขึ้นด้วยสติ๊กเกอร์ใหม่ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งมีให้เลือกถึง 16 แบบ และเสียงประกอบใหม่ๆ ที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์จากศิลปินอินดี้อีก 21 แทร็ค และแทร็คที่เพิ่มมาใหม่นี้ยังปรับตามความยาวของวิดีโอโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับเสียงประกอบอื่นๆ ในแอพ Clips อีกด้วย

อินเทอร์เฟซที่ใช้ง่ายได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายขึ้น โดยวางปุ่มควบคุมที่ใช้บ่อยไว้ในตำแหน่งที่เรียกใช้ได้ง่าย และผู้ใช้สามารถดูและเลือกฟิลเตอร์ ป้ายกำกับ สติกเกอร์ และอิโมจิได้ในเอฟเฟ็กต์เบราเซอร์ใหม่ นอกจากนี้ ปุ่มที่มีป้ายกำกับยังช่วยให้สามารถปรับแต่ง Live Titles (คำบรรยายสด) ใส่หรือเปลี่ยนฟิลเตอร์ ตัดต่อ ปิดเสียง และลบคลิปได้ง่ายขึ้นด้วย อีกทั้งยังมีเบราเซอร์เต็มหน้าจอที่ให้ผู้ใช้เห็นคอนเทนต์มากขึ้นขณะดูรูปภาพในคลังภาพหรือเลือกโปสเตอร์แบบแอนิเมชั่น

วันนี้ผู้ใช้สามารถเปิดดูและปรับแต่งวิดีโอ Clips ผ่าน iCloud ได้ไม่ว่าจะใช้ iPhone หรือ iPad อยู่ โดยวิดีโอจะได้รับการอัพโหลดและสำรองข้อมูลไว้ใน iCloud โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้จึงสามารถเริ่มอัดวิดีโอบน iPhone และมาปรับแต่งต่อจนเสร็จบน iPad ในภายหลังได้ ส่วนรูปภาพและวิดีโอคลิปในคลังรูปภาพ iCloud นั้น แอพ Clips จะใช้วิธีอ้างอิง ไม่ใช่คัดลอก เพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน iCloud และ Clips ยังเพิ่มการรองรับ Shared iPad นักเรียนนักศึกษาจึงสามารถสร้างวิดีโออันน่าทึ่งได้ทั้งบน iPad ที่ใช้คนเดียวและ iPad ที่ใช้ร่วมกัน

Clips ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ข้อความวิดีโอในแบบของตัวเอง สไลด์โชว์ โปรเจ็กต์ที่โรงเรียน และภาพยนตร์ขนาดสั้นด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่ไม่ธรรมดา เช่น Live Titles ที่จะสร้างคำบรรยายแบบแอนิเมชั่นจากเสียงของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ หรือ Selfie Scenes แบบ 360 องศาที่สมจริงบน iPhone X และแอพ Clips ยังให้ผู้ใช้บ่งบอกความเป็นตัวเองในวิดีโอด้วยฟิลเตอร์ สติ๊กเกอร์แอนิเมชั่น และโปสเตอร์แอนิเมชั่นเต็มหน้าจอหลายสิบแบบอีกด้วย นอกจากนี้ ในแอพยังมีเสียงประกอบให้เลือกกว่า 60 แทร็ค ซึ่งทั้งหมดจะปรับตามความยาวของวิดีโอโดยอัตโนมัติ ยิ่งกว่านั้น Clips ยังใช้คอนเทนต์และบุคคลที่อยู่ในวิดีโอเพื่อเป็นข้อมูลในการแนะนำคนที่คุณน่าจะอยากแชร์วิดีโอด้วยทางแอพ Messages อย่างชาญฉลาด ช่วยให้การแชร์วิดีโอกับผู้อื่นกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้นมาทันที

Apple มีการปฏิวัติเทคโนโลยีสำหรับส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัวเครื่อง Macintosh ในปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch สี่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Apple — iOS, OS X, watchOS และ tvOS — ให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกอุปกรณ์ Apple  และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคลด้วยบริการที่ก้าวล้ำรวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple นับแสนคนทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกเพื่อให้โลกเป็นโลกที่ดีกว่า